นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ของกรมสรรพสามิต



  1. เหตุผลและความเป็นมา

    กรมสรรพสามิต เป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการคลัง มีภารกิจในการจัดเก็บภาษี สรรพสามิตเพื่อเป็นรายได้แก่ภาครัฐจากสินค้าและบริการตามที่กำหนดไว้ในบัญชีพิกัดอัตร าภาษี สรรพสามิตท้ายพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 รวมถึงดำเนินการตรวจสอบ ป้องกันและ ปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายภาษีสรรพสามิต ซึ่งปัจจุบันพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคล พ.ศ.2562 ได้มีผลใช้บังคับ ส่งผลให้กรมสรรพสามิตในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุ คคลตาม พระราชบัญญัติดังกล่าวมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กำหนดไว้ กรมสรรพสามิตจึงได้ดำเนินการประกาศนโยบายการคุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคลของกรมสรรพสามิตขึ้น เพื่อให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่กรมสรรพสามิตทำการเก็บรวบรวม ทราบและให้ความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวตามขอบเขต อำนาจหน้าที่และภารกิจของกรมสรรพสามิต โดยกรมสรรพสามิตจะจัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคง ปลอดภัยที่เหมาะสมเพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูล ส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ ซึ่งหากนโยบายนี้มีการทบทวน ปรับปรุง หรือแก้ไข กรมสรรพสามิตจะดำเนินการแจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่กรมสรรพสามิตทำการเก็บรวบรวมทราบ ตามช่องทางสื่อสารที่เหมาะสมต่อไป โดยในนโยบายนี้

    “ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม โดยไม่รวมถึงข้อมูลที่ได้ผ่านกระบวนการทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัว เจ้าของข้อมูลได้ และไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ

    “การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง การดำเนินการหรือชุดการดำเนินการใด ๆ

    ซึ่งกระทำต่อข้อมูลส่วนบุคคลหรือชุดข้อมูลส่วนบุคคล ไม่ว่าจะโดยวิธีการอัตโนมัติหรือไม่ เช่น การเก็บ บันทึก จัดระบบ จัดโครงสร้าง เก็บรักษา เปลี่ยนแปลงหรือปรับเปลี่ยน การรับ พิจารณา ใช้ เปิดเผย ด้วยการส่งต่อ เผยแพร่ หรือการกระทำอื่นใดซึ่งทำให้เกิดความพร้อมใช้งาน การจัดวางหรือผสมเข้า ดัวยกัน การจำกัด การลบ หรือการทำลาย

  2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวม

    กรมสรรพสามิตจะดำเนินการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งเป็นข้อมูลใด ๆ ที่สามารถระบุ ไปถึง “เจ้าของข้อมูล” (data subject) ได้ เช่น หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน ชื่อ-นามสกุล


    คำนำหน้า ที่อยู่ ชื่อหน่วยงาน หมายเลขโทรศัพท์ ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ เพศ ค่าการตั้งค่าบนระบบ ค่าการตั้งค่าความปลอดภัยในบัญชี ไอพีแอดแดรส คุกกี้ เป็นต้น

  3. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคล

    3.1 กรมสรรพสามิตอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจาก 2 ช่องทาง ดังนี้

    3.1.1 กรมสรรพสามิตได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากท่านโดยตรง โดยกรมสรรพสามิต อาจรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากช่องทาง ดังต่อไปนี้

    (1) ขั้นตอนการสมัครใช้บริการกับสรรพสามิต ขั้นตอนการยื่นคำร้องเพื่อ ขอใช้สิทธิ หรือขั้นตอนการยื่นคำร้องอันเป็นการปฏิบัติตามหน้าที่ต่าง ๆ ที่กฎหมายกำหนด กับกรมสรรพสามิต

    1. จากความสมัครใจของท่านเอง จากการทำแบบสอบถาม (survey) จากการ โต้ตอบทางไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ หรือจากช่องทางการสื่อสารอื่น ๆ ระหว่างกรมสรรพสามิตและท่าน

    2. จากข้อมูลการใช้เว็บไซต์ของกรมสรรพสามิตผ่านคุกกี้ที่อยู่ในเบราว์เซอร์

      ของท่าน ดังต่อไปนี้


      3.1.2 กรมสรรพสามิตได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาจากบุคคลที่สาม


      1. กรมศุลกากร

      2. กรมสรรพากร

      3. กรมการปกครอง

      4. หน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการตามภารกิจของกรมสรรพสามิต

          1. กรมสรรพสามิตอาจได้รับข้อมูลดังกล่าวด้วยวิธีการ ดังต่อไปนี้

            1. แบบฟอร์มกระดาษ

            2. แบบฟอร์มออนไลน์

            3. ผ่านระบบเครือข่ายที่เชื่อมโยงกันระหว่างหน่วยงาน

  4. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

    4.1 กรมสรรพสามิตจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อตรวจสอบหรือยืนยันตัวบุคคล

    4.2 กรมสรรพสามิตจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อใช้ในการทดสอบและพัฒนา ระบบงานที่เกี่ยวข้องกับภารกิจของกรมสรรพสามิต

    4.3 กรมสรรพสามิตจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อประโยชน์ในการรักษาความ ปลอดภัยต่อบัญชีผู้ใช้บริการของกรมสรรพสามิต

    4.4 กรมสรรพสามิตจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อแจ้งให้ท่านทราบเกี่ยวกับ ข่าวสารและการประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ

    4.5 กรมสรรพสามิตจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อแจ้งให้ท่านทราบเกี่ยวกับการ เปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น

    4.6 กรมสรรพสามิตจัดเก็บข้อมูลส่วนบบุคคลของท่านเพื่อให้ข้อมูลในการเข้าและใช้ เว็บไซต์/บริการ ในกรณีที่หน่วยงานอื่นที่มีอำนาจตามกฎหมายร้องขอ

    4.7 กรมสรรพสามิตจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อประโยชน์ในการจัดการ เว็บไซต์ การดำเนินการภายใน แก้ไขปัญหา วิเคราะห์ข้อมูล ทดสอบ วิจัย เพื่อความปลอดภัย


    การตรวจสอบการบิดเบือน และการจัดเก็บบัญชีผู้ใช้บริการกรมสรรพสามิต ซึ่งกรมสรรพสามิต มีความจำเป็นในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยเหตุผลต่อไปนี้ ซึ่งอาจไม่จำเป็นต้อง เป็นไปตามเหตุผลใดเหตุผลหนึ่งเท่านั้น แต่อาจเป็นการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลด้วยเหตุ ผล หลายเหตุผลประกอบกันก็ได้

    (1) เพราะกรมสรรพสามิตมีหน้าที่ในการปฏิบัติตามเงื่อนไขการรับบริการ (contract) กรมสรรพสามิตจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้รับบริการ เพื่อดำเนินการ ตามหน้าที่ที่มีอยู่ตามเงื่อนไขการใช้บริการกับผู้รับบริการ ซึ่งโดยส่วนใหญ่คือข้อมูลตามที่ระบุในข้อ 2 นอกจากนี้ กรมสรรพสามิตยังจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลของผู้รับบริการด้วยการทำงานร่วมกันกับ บุคคลภายนอกในการให้บริการหรือดำเนินกิจกรรมของกรมสรรพสามิต เช่น กิจกรรมที่ดำเนินการโดย หน่วยงานราชการหรือเอกชนที่เกี่ยวข้อง (รายละเอียดดูข้อ 5 เกี่ยวกับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลร่วมกัน

    กับหน่วยงานภายนอก)

    1. เพราะกรมสรรพสามิตมีความจำเป็นต้องดำเนินการตามภารกิจสาธารณะ (public task) การให้บริการระบบดิจิทัลภาครัฐเป็นภารกิจสาธารณะที่กรมสรรพสามิตดำเนินการ ตามพันธกิจของกรมสรรพสามิตในฐานะที่เป็นหน่วยงานกลางของระบบรัฐบาลดิจิทัล ซึ่งมีวัตถุประสงค์ ในการพัฒนา บริหารจัดการ ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีดิจิทัล และจัดทำมาตรฐาน

      ทางเทคโนโลยีดิจิทัล สนับสนุนการบูรณาการและการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างหน่วยงานภาครัฐ

      (3) เพราะกรมสรรพสามิตมีความจำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎหมาย (legal obligation) กรมสรรพสามิตจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติตาม

      กฎหมาย ซึ่งรวมถึงการประมวลผลข้อมูลเพื่อการติดตามตรวจสอบ หรือเพื่อการส่งข้อมูลตามกฎหมาย ตามที่หน่วยงานอื่นร้องขอ เช่น กะทรวงการคลัง หรือกรมศุลกากร เป็นต้น

      (4) เพราะกรมสรรพสามิตมีความจำเป็น ต้องดำเนินการตามประโยชน์โดยชอบด้วย กฎหมายของกรมสรรพสามิต (legitimate interests)

      กรมสรรพสามิตจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของ กรมสรรพสามิต โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับงานด้านการวิเคราะห์สถิติ หรือกิจกรรมอื่น ๆ ทำนองเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีการประมวลผลข้อมูลเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของผู้อื่นด้วย เช่น การวิเคราะห์ พฤติกรรมการใช้งานเพื่อการพัฒนาบริการของระบบ

      1. เพราะกรมสรรพสามิตได้รับความยินยอมจากท่าน (consent)

      ในบางกรณี กรมสรรพสามิตจะขอความยินยอมเพื่อประมวลผลข้อมูลของท่าน เช่น การขอความยินยอมเพื่อตอบแบบสอบถาม หรือความยินยอมเพื่อการเปิดเผยหรือส่งข้อมูลที่อ่อนไหว ทั้งนี้ กรมสรรพสามิตจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามวัตถุประสงค์ที่ได้

      แจ้งไว้เท่านั้น ในบางกรณีกรมสรรพสามิตอาจมีพิจารณาว่าสามารถประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ด้วยเหตุผลอื่นที่เกี่ยวข้องและไม่ ขัดหรือนอกเหนือประสงค์เดิม แต่ในกรณีที่กรมสรรพสามิต จำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลด้วยวัตถุประสงค์อื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวัตถุประสงค์เดิม กรมสรรพสามิต จะขอความยินยอมจากท่านใหม่เพื่อใช้ข้อมูลตามวัตถุประสงค์ใหม่นั้น


  5. การใช้ข้อมูลส่วนบุคคลรวมกันกับหน่วยงานภายนอก

    กรมสรรพสามิตอาจมีความจำเป็นต้องส่งข้อมูลไปยังหน่วยงานภายนอก เพื่อประมวลผล ข้อมูลตามหน้าที่ความรับผิดชอบตามสัญญาหรือตามกฎหมายของกรมสรรพสามิต ผ่านระบบการเชื่อมโยง ข้อมูลระหว่างการ 3 ระบบคือ

    (1) ระบบการบริการเชื่อมโยงข้อมูลหน่วยงานภาครัฐและภาคธุรกิจ (National Single Window: NSW)

    1. ระบบ Linkage Center

    2. ระบบ Open Data (โครงการของรัฐบาล) โดยหน่วยงานภายนอกที่มีการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างกัน มีดังต่อไปนี้

      5.1 กรมศุลกากร

      5.2 กรมสรรพากร

      5.3 กรมการปกครอง

      5.4 กรมพัฒนาธุรกิจการค้า

      5.5 สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน

      5.6 สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)

      5.7 สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง

      5.8 สำนักตำรวจแห่งชาติ

      5.9 สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) หรือ สพร. หรือ DGA

      5.10 สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.)

      5.11 ธนาคารหรือสถาบันการเงิน

      5.12 องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย

      5.13 บริษัทคู่สัญญาของกรมสรรพสามิต (vendor)

      5.14 หน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการตามภารกิจของกรมสรรพสามิต

      ในกรณีกรมสรรพสามิตใช้หรือส่งข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลไปยังหน่วยงาน ภายนอก กรมสรรพสามิตจะดำเนินการรเท่าที่จำเป็นโดยใช้หรือส่งข้อมูลให้น้อยที่สุด และอาจพิจารณาใช้วิธี จัดทำข้อมูลนิรนาม (anonymization) การแฝงข้อมูล (pseudonymization) เพื่อความปลอดภัยของข้อมูล โดยบุคคลภายนอกที่เป็นผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลให้กับกรมสรรพสามิตจะต้องจัดให้มีมาตรการคุ้มครอง ข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสมตามนโยบายนี้ และกรมสรรพสามิตไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกดังกล่าวใช้ข้อมูล เพื่อวัตถุประสงค์อื่นนอกจากที่กรมสรรพสามิตกำหนด

  6. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ

    ในบางกรณี กรมสรรพสามิตอาจมีความจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของ ข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ ภายใต้เงื่อนไขอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    (1) ประเทศปลายทางที่รับข้อมูลได้รับการวินิจฉัยจากคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วน บุคคลว่ามีความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ

    (2) หน่วยงานต่างประเทศที่รับข้อมูลอยู่ภายใต้นโยบายในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ ได้รับการตรวจสอบและรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล


    1. กรมสรรพสามิตและหน่วยงานต่างประเทศได้จัดให้มีมาตรการรคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ที่เหมาะสมสามารถบังคับตามสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ รวมทั้งมีมาตรการเยียวยาทางกฎหมาย ที่มีประสิทธิภาพตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคลประกาศกำหนด เช่น ข้อสัญญามาตรฐาน ประมวลวิธีปฏิบัติ มาตรฐานที่ได้รับรอง เป็นต้น

    2. เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อการใช้สิทธิตามกฎหมาย

    3. ได้รับความยินยอมจากท่าน โดยท่านได้รับทราบถึงมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคลที่ไม่เพียงพอของประเทศปปปลายทางหรือองค์การระหว่างประเทศที่รับข้อมูลส่วนบุคคลแล้ว

    4. เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญาหรือเพื่อใช้ในการ ดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญา นั้น

    5. เป็นการกระทำตามสัญญาระกว่างกรมสรรพสามิตกับบุคคล หรือนิติบุคคลอื่น เพื่อประโยชน์ของท่าน

    6. เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่าน หรือบุคคลอื่น เมื่อท่านไม่สามารถให้ความยินยอมในขณะนั้นได้

    7. เป็นการจำเป็นเพื่อการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ

  7. การรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล

    กรมสรรพสามิตได้จัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล ของเจ้าของข้อมูลสวนบุคคล ซึ่งบุคคลภายนอกที่เป็นผู้ปะมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลให้กรมสรรพสามิต จะต้องดำเนินการตามคำสั่งของกรมสรรพสามิตและตกลงที่จะรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูล ส่วนบุคคลเท่านั้น

  8. ระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล

    กรมสรรพสามิตจะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตลอดระยะเวลา ที่จำเป็นในการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของกรมสรรพสามิต ทั้งนี้ หากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล แจ้งความประสงค์ให้ลบข้อมูลส่วนบุคคล กรมสรรพสามิตจะลบข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล ส่วนบุคคลภายใน 90 วัน นับแต่วันที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลแจ้งความประสงค์ยกเลิกการรับบริการ ในระบบ

  9. สิทธิของเจ้าของข้อมูล

    ท่านมีสิทธิในการดำเนินการ ดังต่อไปนี้

    9.1 สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม (right to withdraw consent): ท่านมีสิทธิ ในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมกับ กรมสรรพสามิตได้ ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่กับกรมสรรพสามิต

    9.2 สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล (right of access): ท่านมีสิทธิในการเข้าถึง ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและขอให้กรมสรรพสามิตทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้แก่ท่าน รวมถึง ขอให้กรมสรรพสามิตเปิดเผยการได้มาซี่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอมต่อกรมสรรพสามิตได้

    9.3 สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง (right to rectification): ท่านมีสิทธิ ในการขอให้กรมสรรพสามิตแก้ไขข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง หรือเพิ่มเติมข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์


    9.4 สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล (right to erasure): ท่านมีสิทธิในการขอให้ กรมสรรพสามิตทำการลบข้อมูลของท่านด้วยเหตุบางประการได้

    9.5 สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (right to restriction of processing):

    ท่านมีสิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยเหตุบางประการได้

    9.6 สิทธิในการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล (right to data portability): ท่านมีสิทธิ ในการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ท่านให้ไว้กับกรมสรรพสามิตไปยังผู้ควบคุมข้อมูลรายอื่น หรือ ตัวท่านเองด้วยเหตุบางประการได้

    9.7 สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (right to object): ท่านมีสิทธิ ในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยเหตุบางประการได้

    ท่านสามารถติดต่อมายังเจ้าหน้าที่ของกรมสรรพสามิตได้ เพื่อดำเนินการยื่นคำร้องขอ ดำเนินการตามสิทธิข้างต้น (รายละเอียดการติดต่อปรากฏในหัวข้อที่ 15 “ช่องทางการติดต่อ” ด้านล่างนี้) หรือท่านสามารถศึกษารายละเอียดเงื่อนไข ข้อยกเว้นการใช้สิทธิต่าง ๆ ได้ที่เว็บไซต์ www.excise.go.th หรือ ท่านอาจศึกษาเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม http://www.mdes.go.th

    ทั้งนี้ ท่านไม่จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ในการดำเนินตามสิทธิข้างต้น โดนกรมสรรพสามิต จะพิจารณาและแจ้งผลการพิจารณาตามคำร้องของท่านภายใน 30 วัน นับแต่วันที่กรมสรรพสามิต ได้รับคำร้องขอดังกล่าว

    ในบางกรณีตามสภาพของการดำเนินการ กรมสรรพสามิตอาจไม่สามารถดำเนินการ ตามที่ท่านขอได้ เช่น กรมสรรพสามิตมีความจำเป็นต้องดำเนินการตามหน้าที่ ตามสัญญา หรือตามกฎหมาย เป็นต้น อย่างไรก็ดีในกรณีที่ท่านได้ให้ความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเอาไว้ ท่านสามารถถอนความยินยอมนั้นเมื่อใดก็ได้ด้วยการส่งไปรษณีย์อิเล็กทรอกนิกส์ไปยังส่วนงานที่เกี่ยวข้อง โดยกรมสรรพสามิตจะยุติการปประมวลผลข้อมูลดังกล่าวโดยเร็วที่สุด แต่การถอนความยินยอมนั้น จะไม่มีผลเป็นการยกเลิกเพิกถอนการระมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้ดำเนินการไปแล้ว

    ขอให้ท่านรับทราบว่า กรมสรรพสามิตจะบันทึกรายการต่าง ๆ ที่ได้ดำเนินการเกี่ยวกับ คำร้องของท่านเอาไว้เพื่อใช้ในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น หากท่านมีข้อสงสัยในรายละเอียดทาง ปฏิบัติของการดำเนินการเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่านอาจศึกษาได้จากแนวปฏิบัติ เกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เว็บไซต์ www.excise.go.th

    ในกรณีที่ท่านประสงค์จะใช้สิทธิดังกล่าวข้างต้น หรือมีข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการประมวลผล ข้อมูลส่วนบุคคล โปรดติดต่อที่ excise call center 1713 หรือทางหมายเลขโทรศัพท์ 02 241 5600 – 19 หรือทางไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ pdpa@excise.go.th กรมสรรพสามิตจะรีบดำเนินการตามคำร้องของท่าน โดยเร็วและสอดคล้องกับที่กฎหมายกำหนด อย่างไรก็ดี ท่านมีสิทธิร้องเรียนเกี่ยวกับการไม่คุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคลตามกฎหมายได้ที่คณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญ ตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 73 แห่งพระราชบัญญัติ คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562

  10. คุกกี้ (cookies) คืออะไร

    คุกกี้ คือ ไฟล์ข้อความขนาดเล็ก (text files) ที่อยู่ในคอมพิวเตอร์ของท่านที่ใช้เพื่อ จัดเก็บรายละเอียดข้อมูลการใช้งานอินเทอร์เน็ตของท่าน หรือพฤติกรรมการเยี่ยมชมเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมของคุกกี้ได้จากเว็บไซต์ https://www.allaboutcookies.org/


  11. กรมสรรพสามิตใช้คุกกี้อย่างไร

    กรมสรรพสามิตจะจัดเก็บข้อมูลการเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์จากผู้เข้าเยี่ยมชมทุกราย ผ่านคุกกี้หรือเทคโนโลยีที่ใกล้เคียง และกรมสรรพสามิตจะใช้คุกกี้เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาประสิทธิภาพ ในการเข้าถึงและประสิทธิภาพในการใช้งานบริการของกรมสรรพสามิตผ่านอินเทอร์เน็ตโดยจะใช เพื่อกรณี ดังต่อไปนี้

    (1) เพื่อให้ท่านสามารถลงชื่อเข้าใช้งานบัญชีของท่านในเว็บไซต์ของกรมสรรพสามิตได้อย่าง

    ต่อเนื่อง

    (2) เพื่อศึกษาพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน เพื่อนำไปพัฒนาให้สามารถใช้งานได้งาย

    รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

  12. ประเภทของคุกกี้ที่กรมสรรพสามิตใช้

    กรมสรรพสามิตใช้คุกกี้เพื่อการทำงานของเว็บไซต์ (functionality cookies) สำหรับ เว็บไซต์ของกรมสรรพสามิต ซึ่งเป็นคุกกี้ที่ใช้ในการจดจำสิ่งที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเลือกตั้งค่าไว้ เช่น ภาษา ที่ใช้ เป็นต้น

  13. นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของ website อื่น

    นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ ใช้เฉพาะสำหรับการใช้งานเว็บไซต์ของ กรมสรรพสามิตเท่านั้น หากท่านได้กดลิงก์ (Link) ไปยังเว็บไซต์อื่น (แม้จะผ่านช่องทางในเว็บไซต์ ของกรมสรรพสามิตก็ตาม) ท่านจะต้องศึกษาและปฏิบัติตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ ปรากฏ ในเว็บไซต์นั้น ๆ แยกต่างหากจากของกรมสรรพสามิต

  14. การทบทวนและปรับปรุงนโยบาย

    กรมสรรพสามิตขอสงวนสิทธิในการทบทวนและปรับปรุงนโยบายนี้ตามที่กรมสรรพสามิต เห็นสมควร โดยจะได้แจ้งให้ท่านทราบถึงการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของนโยบายนี้ และกรมสรรพสามิต อาจแจ้งเตือนท่านเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะ ๆ

  15. ช่องทางการติดต่อ

รายละเอียดผู้ควบคุมข้อมูล (Data Controller) ชื่อ/หน่วยงาน: ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศ กรมสรรพสามิต

สถานที่ติดต่อ: เลขที่ 1488 ถ. นครไชยศรี แขวง ถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร 10300

โทรศัพท์: 022415600 - 19 ต่อ 61601-3 ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์: helpdesk@excise.go.th รายละเอียดผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Data Processor) ชื่อ/หน่วยงาน: ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศ กรมสรรพสามิต

สถานที่ติดต่อ: เลขที่ 1488 ถ. นครไชยศรี แขวง ถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร 10300

โทรศัพท์: 022415600 - 19 ต่อ 61601-3

ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์: helpdesk@excise.go.th


รายละเอียดเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer: DPO) ชื่อ/หน่วยงาน: ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศ กรมสรรพสามิต

สถานที่ติดต่อ: เลขที่ 1488 ถ. นครไชยศรี แขวง ถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร 10300

โทรศัพท์: 022415600 - 19 ต่อ 61601-3

ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์: helpdesk@excise.go.th


รายละเอียดหน่วยงานกำกับดูแล ในกรณีที่กรมสรรพสามิตหรือลูกจ้างหรือพนักงานของกรมสรรพสามิตฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม

กฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่านสามารถร้องเรียนต่อหน่วยงานกำกับดูแลตามรายละเอียด ดังนี้

ชื่อ: สำหรับงานปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ทำหน้าที่สำนักงาน คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

สถานที่ติดต่อ: 120 หมู่ 3 ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา อาคาร รัฐประศาสนภักดีช้ัน 7 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ 10210

ช่องทางการติดต่อ: โทรศัพท์: 02-1416747 แฟกซ์: 02-1438019

ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์: pdpc@mdes.go.th

เว็บไซต์: www.mdes.go.th